จริงๆ ทริปนี้บอกตรงว่าไม่พร้อมอย่างแรง แต่สุดท้ายยังไงก็ตามสถานการณ์ก็โดนบังคับให้พร้อมอยู่ดีอ่ะ T_T
อันดับแรกขอพูดประโยคฮิตก่อนเลยนะคะ เดี๋ยวเชยอะคะ คือ กระทู้นี้เป็นรีวิวครั้งแรกสำหรับการเดินทาง หากผิดพลาดประการใด หรือพาดพิงบุคคลใดต้องขออภัยมา ณ โอกาส นี้ด้วยนะคะ และขอแจ้งเพิ่มเติมนิดนึงค่ะ เนื่องจากที่ผ่านมามีคนมารีวิวการไปเที่ยวเกาหลีค่อนข้างเยอะ ดังนั้นเราจะขออนุญาตบุคคลท่านอื่นๆ ขอนำบทความหรือนำ link มาแปะไว้ที่กระทู้นี้นะคะ เดี๋ยวจะใส่เครดิตให้อีกทีค่ะ เพราะเราไปอ่านของคนอื่นๆ ก่อนไปเที่ยวค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว ซึ่งเราดูรีวิวก่อนหน้าแล้วไปเที่ยว ก็สามารถไปเที่ยวได้เองจริงๆ แต่เดี่ยวเราจะเสริมเป็นบางจุดไปนะคะ จะได้มีรายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นไปอีกอะคะ ยังไงต้องขออนุญาตเจ้าของกระทู้ทุกท่านด้วยนะคะ
ป่ะเริ่มกันเลย
1. สายการบิน
เราเดินทางด้วยสายการบินหางแดง X บินตรงโซลเลย โชคดีที่ได้ราคาโปรโมชั่นมา ราคาตั๋วไป-กลับ พร้อมค่าโหลดกระเป๋าเบ็ดเสร็จทั้งหมดไม่เกินห้าพันบาทจ้า สุดยอดดด
2. วัน/เวลา
เนื่องจากตอนที่จองตั๋วต้องรีบจองโดยด่วน เลยไม่ได้ดูสภาพอากาศก่อนไปอ่ะ เลยเลือกช่วงเวลาที่เราสะดวก คือวันที่ 14-18 มีนาคม 2558 รู้แต่ว่าสภาพอากาศเลขหลักเดียว เลยรีบจองก่อน เดี๋ยวไม่ได้ตั่วอ่ะ ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นช่วงใบไม้ผลิ แต่ถ้าจะให้ดีไปปลายเดือนมีนาคม ต้นเมษาจะดีกว่า ดอกไม้กำลังเบ่งบานอ่ะ แต่ไม่เป็นไร แค่จองได้ก็ดีใจละ
3. โรงแรม/ที่พัก
เราพักที่ Hostel KW Myeongdong มีน้องที่ออฟฟิตแนะนำมา แบบว่ามาพักแล้วเลิฟเลยค่ะ ครั้งหน้าถ้ามาอีกไม่พลาดที่จะพักโรงแรมนี้แน่นอน ถึงแม้ว่าห้องจะแคบไปนิด แต่การเดินทางสะดวกค่ะ พักที่เมียงดงเลย ลงแผนที่มาให้ดูด้วย เดินข้ามถนนแป๊บเดี๋ยวลง Smrt ได้เลยจ้า ถึงแม้ว่าตอนที่เข้าพักจะมีปัญหากับฝาชักโครกพัง แต่โดยรวมถือว่าดีเลยทีเดียว เราพักไป 4 คืน ตกคนละ 3,000 บาท แนะนำค่ะ เพิ่มเติมนิดนึงที่โรงแรมมีไดร์เป่าผม น้ำร้อน ฮิตเตอร์ ตู้เย็นเล็กๆ ทีวี ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็คหน้า มีสบู่ ยาสระผม ให้ค่ะ ด้านล่างโรงแรมมีบริการน้ำร้อน น้ำเย็นให้กดดื่มได้จ้า
https://www.facebook.com/myeongdong.hostelkw
4. ศึกษา / จัดตารางเที่ยว
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า เราไม่ได้ศึกษาข้อมูลเรื่องไปเที่ยวเกาหลีไว้เลย พอได้ตั๋วปุ๊บ เราเลยต้องหาวันมานั่งศึกษาข้อมูลต่างๆ และจัดโปรแกรมเที่ยว ซึ่งมีเวลาว่างแค่ 2 วัน แต่เป็น 2 วันที่ แทบไม่ได้หลับได้นอนเลยทีเดียว (ลืมบอก เราจองตั๋วล่วงหน้า 1 เดือนก่อนไปเที่ยวนะ แต่มีวันว่างแค่ 2 วันอ่ะ กิจกรรมอัดแน่นเต็มเดือนเลย ขยับไม่ได้ด้วย) สำหรับวิธีหาข้อมูล เราทำ 3 อย่างจ้า คือ
4.1 หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต
นั่งอ่านพันทิพย์ และกางแผนที่รถไฟใต้ดิน SMRT เพื่อจะพยายามจัดสถานที่
ที่จะไปเที่ยวให้อยู่ทางเดียวกัน จะได้ประหยัดค่ารถอ่ะ และไม่ต้องย้อนไปย้อนมาด้วย
แต่เอาเข้าจริงๆ เวลาไม่พอ สุดท้ายก็ย้อนไปมาอยู่ดีอ่ะ 555
4.3 ดู youtube ilovetogo
https://www.youtube.com/watch?v=k08DK0LQD9I
ที่เค้ารีวิวไปเที่ยวเกาหลีอ่ะ
แล้วโหลดใส่มือถือไว้ เผื่อไว้ดูยามฉุกเฉิน
ถ้าได้นั่งดูก่อนไปใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 10-11 ชั่วโมงอ่ะ
ดีทีเดียว แต่เนื่องจากเรามีเวลาไม่พอ จึงเลือกดูเฉพาะบางช่วงอ่ะ
และไปดูต่อบนเครื่องกึ่งหลับกึ่งตื่น งงๆ กันไป
สำหรับที่โซล เค้ามี Wifi ให้บริการฟรีนะคะ ในพื้นที่ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ตามสถานที่ shopping สนามบิน หรือที่พัก ประมาณนี้อะคะ หากใครไม่ได้มีธุระอะไรจำเป็น ก็ไม่ต้องซื้อ Wifi ก็ได้นะ เราก็ใช้ของฟรีอะคะ พอมีสัญญาณก็อัพรูปบ้าง กลางคืนค่อยไปโซเชียวที่โรงแรมอะคะ ประหยัดเงิน กิกิ
6. ทำ Passport
หลังจากนั่งทำตารางเที่ยวเสร็จก็มาดู Passport โอ้วววแม่จ้าววว หมดอายุ เลยต้องรีบหาวันไปทำด่วนเลย สรุปได้ไปทำ Passport ก่อนเดินทาง 15 วัน สบายใจสินะ เกือบไม่ได้ไปเที่ยว เฮ้อออ นั่งมองกล่องไปรณีย์ทุ๊กกวัน ลุ้นแทบแย่ ละแล้วหนุ่มหล่อก็มาส่งให้ก่อนบิน 5 วัน T_T เล่นซะฉี่เหลืองเลยทีเดียว เครียดดดด
7. เครื่องแต่งกาย
โดยปกติเรื่องเสื้อผ้าสำหรับเราเรื่องใหญ่เลยทีเดียว แต่ทริปนี้คงต้องขอข้ามไปเลย หง่อยมากขอบอก เนื่องจากไม่มีเวลาได้ไปเดินดูเลย มีเวลาแค่ก่อนหน้าจะบินวันเดียวเอง เราเลยรีบตรงไปแพลตตินั่มก่อนเลย ไปก่อนหกโมงเย็นนะจ๊ะ ชั้นใต้ดิน ใกล้ๆ บันไดเลื่อนมีร้านอยู่ 2-3 ร้าน สรุปได้ลองจอน ถุงมือ ถุงเท้า หมวก แต่ปรากฎว่าที่นู้น สภาพอากาศเลขหลักเดียว เค้าไม่ใส่หมวกกันอ่ะ ถุงมือก็น้อยคนที่จะใส่ เราก็เอาติดตัวไปด้วย ถ้าไม่ไหวก็ใส่ ถ้าไหวก็เอามือซุกกระเป๋าไว้อ่ะ เดี๋ยวไม่กลมกลืนกะชาวบ้านเค้า แต่แหมม แค่เค้ามองหน้าก็รู้ละเนอะ ยังจะมาแอบเนียนอีก 555 ไม่ได้ดูเบ้าหน้าตัวเองเลยยย สำหรับโทนสีก็ออกแนว ดำๆ ทึมๆ เข้าไว้ค่ะ อินเทรน แต่เราม่ะค่อยชอบดำอ่ะ เลยแจ้งเกิดกันเลยทีเดียว ขอเป็นเกริ์ลกรุ๊ปละกันนะ
8. ครีมทาตัว
อันนี้ไม่ได้โฆษณานะคะ แต่เราใช้นีเวีย สีน้ำเงินอะคะ พอกทั้งตัวและหน้าก่อนนอน เอาอยู่เลยทีเดียว ไม่งั้นหน้าลอกอ่า เดี๋ยวไม่สวย
9. จัดกระเป๋า
เราเลือกน้ำหนักกระเป๋าแบบนี้ค่ะ ขาไปโหลดกระเป๋าประมาณ 10 กิโล ส่วนขากลับโหลดกระเป๋าไม่เกิน 20 กิโล อ่ะ (อันนี้ไม่รวมกระเป๋าที่เอาขึ้นเครื่องอีก 7 กิโลนะ) ไม่รู้เอาอะไรไปเยอะแยะเราแปะ link วิธีการจัดกระเป๋าไว้นะคะ ลองเข้าไปดูอันนี้ คือดี อะคะ เลิฟเลยอันนี้ชอบมากค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=2SsP8KK7TKE เครดิต โดยPippopunkie
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=142755 เครดิต โดยจีบัน
อ่อ แอบบอกวิธีนั่งน้ำหนักให้หน่อย คือ ถ้าที่บ้านมีเครื่องชั่งน้ำหนัก ให้ใช้วิธียืนดูน้ำหนักของตัวเองก่อนว่าหนักเท่าไหร่ พอรอบสองให้ถือกระเป๋าไว้ที่ตัว หักลบกันก็จะได้น้ำหนักกระเป๋าล่ะ โชคดีที่โรงแรมมีเครื่องชั่งน้ำหนักอ่ะ เลยชั่งกันหน้าโรงแรมเลย ย้ายกระเป๋าไปมาให้น้ำหนักพอดี ล่าสุดไปเจอน้องคนหนึ่งต้องโยนเสื้อผ้าทิ้งที่สนามบินอ่ะ น่าสงสารแต่ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันเพราะของเราก็เกือบเต็มเหมือนกันอ่ะ
10. Adapter
ไปยืม adapter ของน้องมา หน้าตาแบบในรูปเลยจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น