วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

รีวิว แบกเป้ตลุยเกาหลีด้วยตนเอง ไม่ง้อทัวร์ !!!!! 5 วัน 4 คืน 14-18 มีนาคม 2558 สายโหด - Day3

วันที่ 3 ตารางวันนี้ก็แน่นไม่แพ้วันที่สองเช่นกัน จะเหนื่อยก็ตรงตอนเดินขึ้นเขานี่แหล่ะ เหงื่อหยดฝุดๆ



เริ่มต้นที่ English Village ที่ Paju

วันนี้ตื่นสายอีกแล้ว เลยซื้อขนมปังติดมาด้วยกะว่าจะไปกินบนรถเมล์ระหว่างไปปาจู และซื้อขนมปังเพิ่มมาอีกส่วน เพื่อไปกินที่ English Village กลัวไม่มีอะไรกินอ่ะ

นั่ง Smrt มาลงที่สถานี Hapjeong exit 2 




แต่ตอนไปจริงๆ รู้สึกว่าทางออกที่ 1 จะใกล้กว่านะ ออกมาจะเห็นตึกทรงประมาณนี้อยู่ฝั่งตรงกันข้ามแสดงว่าถูกล่ะ ให้เดินขึ้นไปอีกหน่อย จะมีป้ายรถเมลล์สาย 2200 น่าจะสีแดงนะ ถ้าจำไม่ผิด ยืนเข้าแถวรอเลยจ้า รอแป๊บเดียวรถมาเลย








และแล้วก็มาถึงจุดพีค ปกติพอรถเมล์มาปุ๊บก่อนจะแปะ T-money เราก็ต้องถามคนขับก่อนใช่ป่ะ ว่าไป English Village หรือเปล่า เราก็ถามว่า "English Village คาโยว" คนขับเงียบบบบบ เราก็ชักเริ่มใจไม่ดีล่ะ ว่าไปหรือเปล่าเนี๊ย เลยเอาใหม่ "ปาจู คาโยว" คนขับเงียบบบบบอีก สะตั้นกันไป 5 วิ เอาไงดีว่ะ สุดท้ายไม่รู้ล่ะ คิดในใจ ถ้าหลงลุงต้องไปส่งฉันแล้วล่ะ เลยแปะ T-money ไปเลย ตลอดเส้นทางก็ลุ้นๆ อยู่ว่า หลงไหมหนออออ หลับไม่หลงเลยทีเดียว ไม่ต้องกินกาแฟเลย สบายใจ รู้แต่ว่าป้ายรถเมล์ English Village เกือบสุดสาย 1 ป้ายอ่ะ 



ตอนลงรถเมล์อย่าลืมแปะ T-money ด้วยนะจ๊ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-60 นาที ถ้าเห็นป้ายรถเมล์เลข 57 แบบนี้ และกำแพงแบบนี้ใช่เลย กดกริ่งเลยจ้า





ถึงแล้นนน ปรากฎว่าง่วงอ่าาาา  มองไปรอบๆ นี่มันบ้านผีสิงปะเนี๊ย ไม่มีใครมาเลยอ่ะ โล่งมากกกก แต่อีกใจนึงก็ดีนะ เวลาถ่ายรูปจะได้ไม่ติดใครอ่ะ อะเคร


ค่าเข้า 3,000 วอน ประมาณ 90 บาท ก็จะมีฝรั่งมาต้อนรับเหมือน ตม. ถามเราว่ามาจากไหน และประทับตราให้ในใบ Passport













เดินไปเดินมาเริ่มหิว ปรากฎว่าไม่มีร้านเปิดเลยอ่ะ สงสัยเห็นไม่มีคนมาเที่ยวขนาดเที่ยงกว่าๆ แล้วนะเนี๊ย เลยนั่งกินขนมปังที่พกมา หลังจากนั้นเตรียมตัวไปหมู่บ้านฝรั่งเศสต่อ

ให้ขึ้นรถ 2200 เลขเดียวกับที่เรานั่งมาแต่นั่งฝั่งตรงกันข้ามกับที่เราลง ง่ายๆ คือ ฝั่งเดียวกับ English Village นั่งมาไม่นาน พอเจอป้ายเลข 15 ก็กดกริ่งลงเลยค่ะ





เดินขึ้นไปตามทางบนเขาเลยค่ะ จริงๆ มีรถเมล์วิ่งผ่านนะ แต่กลัวหลงอ่ะ เลยยอมเดินดีกว่า









เห็นเขาแล้วท้อเลย T_T





เดินไปสักพักก็จะเจอทางแบบนี้ หมู่บ้านฝรั่งเศสอยู่ระหว่างตึกสีเหลืองกับสีชมพู อยู่ในซอกนี้ค่ะ











จริงๆ เราว่าที่นี่ม่ะค่อยมีอะไรอ่ะ เล็กๆ แต่ที่นี่เคยถ่ายทำละครเรื่อง he come from the start เลยค่อนข้างมีผู้คนมาเที่ยวบ้าง เราแวะกินอะไรรองท้องที่นี่และพักขาแป๊บนึง ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถเมลล์ 2200 ตรงจุดที่เราลงมาอ่ะ เพื่อกลับไปยัง Hapjeong ตรงป้ายรถเมล์ มีป้ายอัจฉริยะอยู่ด้วยนะ ว่าตอนนี้รถเมล์ใกล้ถึงหรือยังอ่ะ สุดยอดไปเลย แต่พอป้ายบอกว่า รถเมล์ใกล้ถึงล่ะ เอาเข้าจริงๆ ก็นานพอตัวเลยกว่าจะมาถึงอ่ะ แต่โดยรวมถือว่าดีจ้า


ขากลับพยายามดูป้ายเดิมที่เราขึ้นมาครั้งแรกอ่ะ พอใกล้ๆ ถึงตึกแปลกๆ ก็ลงเลยจ้า


ย่านฮงแด (Hongdae) หรือ ม.ฮงอิก (Hongik Univ.)

MRT สายสีเขียว สถานี Hongik exit 8 หรือ 9 ก็ได้

ที่นี่เราไม่ได้ถ่ายรูปอ่ะ เข้าไปดูรายละเอียดได้ตามลิงค์ด้านล่างเลยค่ะ



นัมซาน โซลทาวเวอร์ (N Seoul Tower)

MRT สายสีฟ้า myeong-dong exit3
ค่าเคเบิล คาร์ One way คือขาขึ้นเรานั่งเคเบิล คาร์ขึ้นไป แต่ขาลงเราจะเดินลงค่ะ จะได้ชมบรรยากาศด้วย คนละ 6,000 วอน ประมาณ 200 บาทค่ะ














หลังจากเดินจนเหนื่อยเราก็ไปกินซุบทหารที่เมียงดงตามรอย ilovetogo ค่ะ ดูรายละเอียดตามลิงค์ด้านล่างได้เลยจ้า

https://www.youtube.com/watch?v=k08DK0LQD9I



รสชาติคล้ายๆ แกงส้มบ้านเรานะ แต่เจ้มจ้นมากกว่า ยิ่งตอนเคี่ยวจนน้ำข้นๆ ยิ่งอร่อยอ่ะ ขูดหม้อกินกันเลยทีเดียว




หลังจากนั้นก็ไป Shopping ซื้อของฝาก เครื่องสำอางค์ที่ย่านเมียงดงค่ะ แค่ที่นี่ ที่เดียวร้านยี่ห้อเดียวกันเปิดเกือบสี่สาขาแน่ะ เดินไปเดินมา ก็งงตัวเอง นึกว่าเดินวนไปมา จริงๆ แล้ว สาขาเยอะมาก แต่ละสาขาก็ให้ของแถมไม่เหมือนกัน ต้องลองเดินๆ ดู แถมไปเจอบ้างร้านฮาร์ทคอร์มากดึงมือเข้าร้านเลย สุดท้ายก็ต้องซื้อของไปโดยปริยาย T_T 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น